ราคาทองคำในประเทศไทยใครเป็นผู้กำหนด? และขึ้นกับตัวแปรอะไรบ้าง?

ราคาทองคำในประเทศไทยใครเป็นผู้กำหนด? และขึ้นกับตัวแปรอะไรบ้าง?

สำหรับราคาทองคำในประเทศไทยนั้น ถูกกำหนดโดยคณะกรรมการควบคุมราคาทองของสมาคมค้าทองคำ( www.goldtraders.or.th ) ประกอบไปด้วย 5 ห้างทอง ได้แก่

  • ห้างทองจินฮั้วเฮง
  • ห้างทองฮั่วเซ่งเฮง
  • ห้างทองเลี่ยงเส็งเฮงพาณิชย์
  • ห้างทองหลูชั้งฮวด
  • ห้างทองแต้จิบฮุย

ในการกำหนดราคาทองคำ ทางคณะกรรมการฯ ได้ยึดถือหลักประชาธิปไตย และให้การดูแลตลอดช่วงระยะเวลาของการซื้อขาย ราคาทองคำที่ถูกกำหนดขึ้นมานั้น สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม ซึ่งอ้างอิงจากราคา Gold Spot บวกหรือลบค่า Premium จากผู้ค้าทองในต่างประเทศ ( และขึ้นอยู่กับสถานการณ์ในช่วงนั้น ว่าเป็นสภาวะการนำเข้า หรือการส่งออก ) จากนั้นจึงนำมาคำนวณกับค่าเงินบาท แล้วแปลงหน่วยน้ำหนักจากหน่วยออนซ์ (ounze) ให้เป็นหน่วยน้ำหนักของไทย คือ บาท โดยการตัดสินใจประกาศราคาทองในประเทศแต่ละครั้งนั้น ทางสมาคมค้าทองคำ จะต้องพิจาราณาองค์ประกอบของ Demand และ Supply ทองคำภายในประเทศเป็นสำคัญอีกด้วย

ตัวแปรที่สำคัญในการกำหนดราคาทองในประเทศไทย

ตัวแปรที่สำคัญในการกำหนดราคาทองในประเทศไทย สรุปได้ 4 ตัวแปร ดังต่อไปนี้

1. ราคาทองคำต่างประเทศ (Gold spot)

ราคาทองคำต่างประเทศ (Gold spot) เป็นราคาอ้างอิง ที่ยังไม่ได้มีการบวก หรือลบค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่เกิดขึ้นจริงในการส่งมอบทองคำ เป็นการซื้อขายทองคำที่ไม่มีการส่งมอบ หากพิจารณาดูตามราคา Gold spot จะเห็นว่ามีทั้งฝั่ง Bid และ Ask ซึ่งก็คือราคารับซื้อ และราคาขายออก นั่นเอง ซึ่งในการซื้อทองคำจากต่างประเทศ ผู้ขายจะใช้ราคา Ask ในการคำนวณ ส่วนเมื่อขายกลับไปยังผู้ค้าทองคำต่างประเทศ จะใช้ราคา Bid ในการคำนวณ และทางสมาคมค้าทองคำ ก็ใช้หลักในการพิจารณาเช่นเดียวกันนี้

2. อัตราค่า Premium ( ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นจากการนำเข้า/ส่งออกทองคำ )

เมื่อมีความต้องการซื้อทองคำจำนวนมากจากผู้สนใจลงทุนในทองคำ และปริมาณทองคำภายในประเทศมีไม่เพียงพอ ร้านค้าทองจึงจำเป็นต้องอาศัยการนำเข้าทองคำจากต่างประเทศ ซึ่งก็คือการซื้อทองคำจากผู้นำเข้า ซึ่งผู้นำเข้าก็ต้องซื้อต่ออีกทอดหนึ่งจากผู้ค้าในต่างประเทศ โดยจะมีการคิดค่า Premium

ซึ่ง ค่า Premium คือ ค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่เกิดขึ้นเพื่อที่นำเข้า หรือส่งออกทองคำ รวมถึงค่าขนส่ง ค่าความเสี่ยง ดอกเบี้ยธนาคาร ค่าประกันภัยต่างๆ ซึ่งจะถูกกำหนดมาโดยผู้ค้าทองในต่างประเทศ ซึ่งเรียกง่ายๆว่า เป็นต้นทุนในการนำเข้าทองคำจากต่างประเทศเข้ามาขายผู้บริโภคในประเทศไทย นั่นเอง

โดยในการคำนวนจะนำราคา Gold Spot บวกค่า Premium เข้าไปด้วย ซึ่งในทางกลับกัน เมื่อมีประชาชนมาขายทองคำแท่ง คืนให้กับร้านทองจำนวนมากๆ ร้านทองจำเป็นต้องทำการขายกลับคืนมาให้กับบริษัทผู้นำเข้า และผู้นำเข้าก็จะทำการขายคืนกลับไปให้กับผู้ค้าทองในต่างประเทศอีกทอดหนึ่ง

ในจุดนี้ต่างประเทศจะใช้ราคา Gold Spot ฝั่ง BID และหักลบค่าใช้จ่าย Premium ในฝั่งขายออกนี้จะเรียกว่า Discount สำหรับสภาวะปกติค่า premium หรือ discount จะอยู่ที่ +1 ถึง 2 เหรียญต่อออนซ์ แต่ในสภาวะผิดปกติ จากการที่ราคาทองคำในต่างประเทศปรับตัวขึ้นหรือลงอย่างมาก และรวดเร็วในระยะเวลาอันสั้น ทำให้มีความต้องการซื้อทองคำจากทุกประเทศในโลกพร้อม ๆ กัน

เมื่อมี Demand ในตลาดโลกมาก จะทำให้เกิดการแย่งซื้อ ส่งผลให้มีการปรับขึ้นลงค่า premium และ discount จากผู้ค้าในต่างประเทศอย่างรวดเร็วและรุนแรงมากเช่นกัน โดยอาจอยู่ในช่วง +10 ถึง 20 เหรียญต่อออนซ์ หรือในบางครั้งอาจสูงถึง +25 เหรียญต่อออนซ์ ซึ่งเกิดขึ้นไม่บ่อยครั้งนัก

3. ค่าเงินบาทต่อดอลล่าสหรัฐ

ค่าเงินบาทที่ใช้ในการคำนวณราคาทองคำในประเทศไทย จะใช้อัตราการโอนเงินระหว่างประเทศ ซึ่งจะมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา เช่นเดียวกับ gold spot และมีการใช้ราคาในฝั่ง Bid และ Ask เช่นเดียวกัน และหากมีสภาวะวิกฤตของสถาบันการเงิน แต่ละธนาคารก็จะบวกค่าความเสี่ยงเข้าไปด้วยเช่นกัน

4. Demand และ Supply ภายในประเทศ

นอกจากคณะกรรมการควบคุมราคาทองของสมาคมค้าทองคำ จะพิจารณาราคา Gold Spot  ค่า Premium และค่าเงินบาท ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาแล้ว ยังต้องคำนึงถึงปัจจัยด้าน Demand และ Supply ภายในประเทศอีกด้วย เพื่อที่จะตัดสินใจประกาศราคาทองคำภายในประเทศ ณ ช่วงเวลานั้นๆ โดยคณะกรรมการกำหนดราคาทั้ง 5 คน จะพิจารณาจากปริมาณ และราคาที่เกิดขึ้นในการซื้อขายระหว่าง

  • ผู้นำเข้าหรือผู้ส่งออกทองคำ
  • ร้านค้าทองเยาวราช
  • ร้านค้าส่งทองคำ
  • ร้านค้าปลีกทองคำ
  • ผู้ลงทุนทองคำรายใหญ่
  • ผู้ลงทุนทองคำรายย่อย

สรุป

การกำหนดราคาทองคำในประเทศไทย มิใช่ว่าร้านทองจะซื้อขายกับประชาชนผู้สนใจลงทุนในทองคำเพียงฝ่ายเดียว หากทำความเข้าใจให้ละเอียดแล้ว จะพบว่า ทุกภาคส่วนล้วนมีการซื้อและขายทองคำด้วยกันเองตลอดเวลา และการซื้อขายของร้านค้าทองด้วยกันเอง ซึ่งจะมีปริมาณที่มากกว่าการซื้อขายกับผู้ลงทุนทั่วไปหลายเท่าตัวอีกด้วย

เพราะฉะนั้นถ้าหากว่าสมาคมค้าทองคำ ประกาศราคาทองคำสูงหรือต่ำกว่าความเป็นจริงจากตลาดต่างประเทศมากไป ร้านทองด้วยกันเองจะมีการวิ่งเข้าหาซื้อหรือเทขายกันเอง ส่งผลให้สมาคมค้าทองคำ ต้องปรับราคาให้เหมาะสมในที่สุด เพื่อสะท้อนถึงความต้องการทองคำของตลาดตามความเป็นจริง ตามกฎของ Demand และ Supply กลไกของตลาดดำเนินการไปด้วยตัวของมันเอง

เช่น หากราคาทองของสมาคมค้าทองคำ ประกาศต่ำกว่าตลาดโลกมาก ก็จะมีกลุ่มผู้ตระเวนซื้อทองรูปพรรณเก่าตามร้านทองทั่วประเทศ และขายทองให้ผู้ส่งออกต่างประเทศได้ส่วนต่างผลกำไรโดยตรง โดยไม่ผ่านร้านทองทำให้ร้านทองเสียรายได้ส่วนนี้ไปอย่างเห็นได้ชัด หรือหากมีการกำหนดราคาที่สูงกว่าราคาตลาดโลกมาก ก็จะมีผู้นำเข้าทองนำทองมาขายให้ร้านทองโดยทันทีเช่นกัน เนื่องจากจะได้กำไรจากค่าส่วนต่างที่มาก

ดังนั้น การที่ผู้สนใจลงทุนในทองคำดูราคา Gold spot จาก Website ต่างประเทศ แล้วนำมาคำนวณตามสูตรตรงๆ ก็จะได้ราคาที่ไม่สะท้อนความเป็นจริงในการซื้อขายที่มีการส่งมอบทองจริง ซึ่งหากพิจารณาข้อมูลที่กล่าวมาแล้วข้างต้น จะเห็นว่า ตลาดค้าทองคำของไทยนั้น เป็นตลาดที่มีการแข่งขันอย่างสมบูรณ์ และสามารถดำเนินไปด้วยกลไกทางการตลาดที่แท้จริง

แหล่งที่มาอ้างอิงจาก เว็บไซต์สมาคมค้าทองคำ

ราคาทองคำประจำวันที่ 5 ตุลาคม 2564

ราคาทอง

ราคาทองคำประจำวันที่ 5 ตุลาคม 2564

 

ชนิดทอง ราคารับซื้อ กรัมละ ราคารับซื้อ บาทละ ราคาขาย บาทละ
ทองคำแท่ง 96.5% n/a 28,000.00 28,100.00
ทองรูปพรรณ 96.5% 1,814.00 27,500.24 28,600.00
ทองรูปพรรณ 90% 1,632.60 24,750.22 n/a
ทองรูปพรรณ 80% 1,451.20 20,000.19 n/a
ทองรูปพรรณ 50% 816.00 12,370.56 n/a
ทองรูปพรรณ 40% 635.00 9,626.60 n/a
ทองรูปพรรณ 99.99% 1,880.00 28,500.80 n/a
ทองคำ 99.99 และ 99.50% ราคาเปิด ราคาปิด
ฮ่องกง 16,410.00 n/a
ลอนดอน AM FIX n/a 1,751.85
ลอนดอน PM FIX n/a 1,754.55
นิวยอร์ค 1,770.80 1,767.70

ราคาทองคำจาก สมาคมค้าทองคำ ( www.goldtraders.or.th )

ราคาทองคำประจำวันที่ 26 เมษายน 2562

ราคาทอง

ราคาทองคำประจำวันที่ 26 เมษายน 2562

 

ชนิดทอง ราคารับซื้อ กรัมละ ราคารับซื้อ บาทละ ราคาขาย บาทละ
ทองคำแท่ง 96.5% n/a 19,350.00 19,450.00
ทองรูปพรรณ 96.5% 1,253.00 18,955.48 19,950.00
ทองรูปพรรณ 90% 1,127.00 17,095.93 n/a
ทองรูปพรรณ 80% 1002.40 15,196.38 n/a
ทองรูปพรรณ 50% 564.00 8,550.24 n/a
ทองรูปพรรณ 40% 439.00 6,655.24 n/a
ทองรูปพรรณ 99.99% 1,298.00 19,677.68 n/a
ทองคำ 99.99 และ 99.50% ราคาเปิด ราคาปิด
ฮ่องกง 11,960.00 11,988.00
ลอนดอน AM FIX n/a 1,277.85
ลอนดอน PM FIX n/a 1,280.80
นิวยอร์ค 1,276 1,277.00

ราคาทองคำประจำวันที่ 2 พฤศจิกายน 2561

ราคาทอง

 

ชนิดทอง ราคารับซื้อ กรัมละ ราคารับซื้อ บาทละ ราคาขาย บาทละ
ทองคำแท่ง 96.5% n/a 19,100.00 19,200.00
ทองรูปพรรณ 96.5% 1,237.00 18,752.92 19,700.00
ทองรูปพรรณ 90% 1,113.30 16,877.63 n/a
ทองรูปพรรณ 80% 989.60 15,002.34 n/a
ทองรูปพรรณ 50% 557.00 8,444.12 n/a
ทองรูปพรรณ 40% 433.00 6,564.28 n/a
ทองรูปพรรณ 99.99% 1,282.00 19,435.12 n/a
ทองคำ 99.99 และ 99.50% ราคาเปิด ราคาปิด
ฮ่องกง 11,520.00 n/a
ลอนดอน AM FIX n/a 1,223.25
ลอนดอน PM FIX n/a 1,231.15
นิวยอร์ค n/a 1,233.43

หลักในการกำหนดราคาทองคำในประเทศไทย

ความรู้ที่คุณออกจากเพื่อนและพี่น้องของคุณที่สนใจลงทุนในทองคำ ทุกคนที่ต้องการเข้าใจว่าทำไมเขาถึงอยากรู้ราคาทองคำตอนนี้ ราคาทองคำร่วงลง เมื่อไหร่จะเป็นอย่างไร? คุณคือใคร? หรือในกรณีใด ๆ จะได้รับการรับรู้โดยบุคคลหนึ่งหรือปัจจัยภายนอกอื่น ๆ การพิจารณาอีกประการคือการเพิ่มขึ้นหรือลดลงของราคาทองคำทุกวัน

หลักในการกำหนดราคาทองคำในประเทศไทย

ราคาทองคำไทย มีหลายปัจจัย คณะกรรมการสมาคมทองคำแห่งชาติกำหนดระยะเวลาการทำธุรกรรม หลักการประชาธิปไตยในการกำหนดราคาทองคำ ถือ 3 votes จาก 5 คะแนนโหวต คณะกรรมการประกอบด้วยร้านค้าทองคำชั้นนำห้าแห่ง จากประเทศไทย

5 ร้านทองคำใหญ่ที่เป็นคณะกรรมการกำหนดราคาทองคำไทย
1.ห้างทองจินฮั้วเฮง
2.ห้างทองฮั่วเซ่งเฮง
3.ห้างทองเลี่ยงเส็งเฮงพาณิชย์
4.ห้างทองหลูชั้งฮวด
5.ห้างทองแต้จิบฮุย

สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามนี้ สำหรับราคาทองคำในสมาคม ขึ้นอยู่กับพรีเมี่ยมบวกหรือลบในจุดทองจากผู้ค้าทองต่างชาติ (การนำเข้าขึ้นอยู่กับสถานการณ์หรือส่งออกหลังจากนั้นจะคำนวณเป็นเงินบาทและแปลงหน่วยน้ำหนักออนซ์ให้เป็นหน่วยน้ำหนักของประเทศไทยตามการตัดสินใจกำหนดราคาทองคำของแต่ละประเทศสมาคมมี demand นอกจากนี้จำเป็นต้องจัดหาส่วนประกอบทองภายใน

ตัวแปรสำคัญในการกำหนดราคาทองคำในประเทศไทย สามารถสรุปได้ดังนี้

1. ราคาทองคำ (Golden Spot)
2. เกิดขึ้นเมื่อนำเข้า / ส่งออกพรีเมี่ยมทอง)
3. ค่าเงินบาท
4. อุปสงค์และอุปทานทองคำในประเทศ

เป็นสิ่งสำคัญที่นี่ที่แต่ละตัวแปรทั้งสี่ใช้เป็นปัจจัยในการกำหนดราคาทองคำที่บ้านซึ่งอธิบายไว้ในรายละเอียด

1. ราคาทองคำ (Gold Spot) ราคาทองคำ (Gold Spot)
นี่คือราคาอ้างอิงทางอิเล็กทรอนิกส์ นี้ไม่ได้เป็นบวก หรือลบค่าใช้จ่ายออก ข้อตกลงที่เกิดขึ้นจริงกับการส่งมอบทองไม่ได้ทำ พิจารณาราคาของ Gold Spot มีทั้งราคาเสนอซื้อและถามราคาซื้อ และราคาขายเอง ซื้อทองจากต่างประเทศ ผู้ขายจะใช้ราคาที่ระบุในการคำนวณเราจะใช้ราคาในการคำนวณเช่นเดียวกับหนึ่งที่สอดคล้องกันดังนั้นเราจะขายให้กับผู้ค้าต่างประเทศในทองคำ ในการกำหนดราคาทองคำในประเทศเราต้องคำนึงถึงราคาทองคำ ตลาดทองคำในประเทศคืออะไร? ตัวอย่างเช่นเมื่อคุณซื้อทองคุณต้องนำเข้าทอง หากต้องการขายทองจำนวนมากคุณต้องส่งออก

2. ค่าเบี้ยประกันภัยพิเศษ (ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการส่งออกและนำเข้าทองคำ)
เมื่อมีความต้องการทองจากนักลงทุนที่สนใจทอง และประเทศไม่มีเงินมากพอ ผู้ค้าทองต้องนำเข้าทองจากต่างประเทศ กล่าวคือซื้อจากผู้นำเข้า ผู้นำเข้าจำเป็นต้องซื้อเพิ่มเติมจากผู้ค้าในต่างประเทศ จ่ายเบี้ยประกันภัยแล้ว

พรีเมี่ยมเป็นมูลค่ามัน นำเข้าหรือส่งออกทองคำ รวมค่าจัดส่ง เบี้ยประกันภัยที่กำหนดโดยผู้ค้าทองคำต่างชาติ เป็นเพียงค่านำเข้าทองคำจากต่างประเทศและขายในประเทศไทย เมื่อคำนวณราคา spot และ premium ในทางกลับกันเมื่อคนขายทองคำแท่ง กลับไปที่ร้านทองมากมาย ร้านทองควรจะขายให้กับผู้นำเข้า นอกจากนี้ผู้นำเข้าจะขายให้กับผู้ค้าทองคำในประเทศอื่น ๆ ขณะนี้ชาวต่างชาติใช้ราคาสปอตของ BID และหักค่าใช้จ่าย

พรีเมี่ยมที่ขายเพื่อขายเรียกว่าส่วนลดตามระยะเวลาปกติและเบี้ยประกันภัยหรือส่วนลดจะอยู่ที่ 1 ถึง 2 เหรียญต่อออนซ์ แต่อยู่ในสถานการณ์วิกฤติในปัจจุบัน ราคาทองคำในต่างประเทศปรับตัวลดลง จะเร็วขึ้นในระยะเวลาสั้น ๆ ในขณะเดียวกันความต้องการทองจากทุกประเทศทั่วโลกจะบังคับให้คุณได้รับความต้องการทั่วโลก เป็นผลให้โบนัสและส่วนลดจากผู้ค้าต่างประเทศมีการเติบโตอย่างรวดเร็วและอย่างจริงจัง ราคาอยู่ระหว่าง 10 เหรียญต่อออนซ์ถึง 20 เหรียญบางครั้งถึง 25 เหรียญต่อออนซ์ ไม่เคยชอบในอดีต

3. ค่าเงินบาทต่อดอลลาร์
ค่าเงินบาทเมื่อคำนวณราคาทองคำในประเทศ การเปลี่ยนแปลงที่ใช้อัตราค่าภาษีระหว่างประเทศมีทั้งจุดเสนอราคาทองและราคาเดียวกัน ทุกธนาคาร รวมทั้งความเสี่ยง

4. อุปสงค์และอุปทาน
คณะกรรมการทองคำ / พรีเมี่ยมคณะกรรมการและเงินบาทมีการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้เรายังต้องคำนึงถึงอุปสงค์ในประเทศ กำหนดราคาทองคำของประเทศในเวลานั้น 5 คณะกรรมการราคาจะพิจารณาปริมาณ และราคาของการทำธุรกรรม

4.1 ผู้นำเข้าหรือผู้ส่งออกทองคำ
4.2 ร้านทองในไชน่าทาวน์
4.3 ทองคำขายส่ง
4.4 ร้านค้าปลีก Golden
4.5 นักลงทุนทองคำ
4.6 อัตราดอกเบี้ยต่ำ

คนที่สนใจลงทุนในเงิน ในฐานะที่นักลงทุนเข้าใจ ความเข้าใจผิดทุกฝ่ายเสมอค้าเงิน และข้อตกลงระหว่างร้านทองคำเกินปริมาณการซื้อขายโดยนักลงทุนนับสิบ ดังนั้นหากสมาคมประกาศว่าราคาทองคำสูงหรือต่ำกว่าตลาดจริงในต่างประเทศ ฉันจะไปซื้อทองคำขาว ดังนั้นสมาคมจะต้องปรับราคาให้เหมาะสม ซึ่งสะท้อนถึงความต้องการทองที่แท้จริงในตลาด ตามกฎของอุปสงค์และอุปทานกลไกการตลาดจะเคลื่อนไปตามลำพังเช่นเดียวกับถ้าราคาทองคำต่ำกว่าตลาดโลกอย่างมาก จะมีลูกค้าบางรายซื้อเครื่องประดับทองคำเก่าในร้านทองทั่วประเทศ หากคุณขายเงินให้กับผู้ส่งออกต่างชาติต่างก็ง่าย ร้านค้าจะไม่สูญเสียรายได้ส่วนนี้ไป หรือถ้าราคาสูงกว่าราคาในตลาดโลก ผู้นำเข้าทองคำจะขายทองคำเร็ว ๆ นี้ Margin น่าสนใจมาก

นักลงทุนที่สนใจทองสามารถมองเห็นราคาทองคำได้จากต่างประเทศ จากนั้นเราคำนวณสูตรเป็นเส้นตรง ราคาไม่ได้สะท้อนถึงความเป็นจริงของการซื้อขายด้วยเงินจริง สถานการณ์ที่ผิดปกติโดยเฉพาะอย่างยิ่งตัวอย่างเช่นวันนี้ พิจารณาข้อมูลข้างต้น ดูตลาดทองคำในประเทศไทย ตลาดมีการแข่งขันกันอย่างเต็มที่ และคุณสามารถทำผ่านกลไกการตลาดได้

ราคาทองคำประจำวันที่ 1 พฤศจิกายน 2561

ราคาทอง

ชนิดทอง ราคารับซื้อ กรัมละ ราคารับซื้อ บาทละ ราคาขาย บาทละ
ทองคำแท่ง 96.5% n/a 19,000.00 19,100.00
ทองรูปพรรณ 96.5% 1,231.00 18,661.96 19,600.00
ทองรูปพรรณ 90% 1,107.90 16,795.76 n/a
ทองรูปพรรณ 80% 984.80 14,929.57 n/a
ทองรูปพรรณ 50% 554.00 8,398.64 n/a
ทองรูปพรรณ 40% 431.00 6,533.96 n/a
ทองรูปพรรณ 99.99% 1,276.00 19,344.16 n/a
ทองคำ 99.99 และ 99.50% ราคาเปิด ราคาปิด
ฮ่องกง 11,390.00 n/a
ลอนดอน AM FIX n/a 1,217.70
ลอนดอน PM FIX n/a 1,214.95
นิวยอร์ค n/a 1,214.76

5 ปัจจัยกำหนดราคาทองคำ

บทความนี้มุ่งเน้นไปที่ เราได้เผยแพร่บทความเกี่ยวกับทองคำในวันนี้ว่า “5 ปัจจัยกำหนดราคาทองคำ” อนาคตของวันพรุ่งนี้อัตราการลดลงของทองบทความนี้จะมีประโยชน์มากหรือน้อยสำหรับผู้ที่ศึกษาการค้าทองคำและซื้อทองคำเพื่อเก็งกำไร

ตอนนี้กำลังเป็นที่นิยมมากขึ้นในการลงทุนในทองคำเพื่อหารายได้ ราคาทองคำจะผันผวนมากขึ้นเนื่องจากนักลงทุนและนักเก็งกำไร ให้ความสำคัญกับนักลงทุนที่มีผลต่อราคาทองคำ ปัจจัยของอุปสงค์และอุปทาน ซึ่งจะได้นำเสนอเป็นข้อมูลดังต่อไปนี้

องค์ประกอบที่กำหนดราคาทองคำประกอบด้วย

1) ดอลล่าร์สหรัฐ
เมื่อมีการแก้ไขปัจจัยอื่น ๆ ตามกฎแล้วราคาทองคำจะเพิ่มขึ้น ตั้งแต่การซื้อเงินป้องกันความเสี่ยงค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐสกุลเงินสหรัฐจะลดลง สำหรับดอลลาร์สหรัฐ เงินดอลลาร์สหรัฐเป็นสกุลเงินหลักถูกใช้เป็นตัวกลางในการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศทั่วโลก การรักษาสัญญาณที่ธนาคารกลางของ USD มักจะขยายไปสู่ความเสี่ยง ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นโดยการหารลงในสินทรัพย์อื่น ๆ เช่นสกุลเงินอื่น ๆ รวมถึงทองคำ

2) ความกังวลเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อ
เมื่อมีการแก้ไขปัจจัยอื่น ๆ ตามกฎแล้วราคาทองคำจะเพิ่มขึ้น เมื่อเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นเงินเป็นสินทรัพย์ที่ป้องกันภาวะเงินเฟ้อที่มีประสิทธิภาพ สังเกตทิศทางของอัตราเงินเฟ้อจากทิศทางของราคาพลังงาน (น้ำมัน) และราคาอาหาร นี่เป็นปัจจัยหนึ่งที่มีผลต่ออัตราเงินเฟ้อโดยตรง

3) ความเสี่ยงทางการเมืองระหว่างประเทศและระบบการเงิน
ราคาทองคำมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นหลังจากความตึงเครียดทางการเมืองระหว่างประเทศ และมีความไม่แน่นอนสูงในระบบการเงินโลก ในระหว่างเหตุการณ์เหล่านี้ การขายสินทรัพย์ทางการเงินอื่น ๆ นักลงทุนจะถือเงินแทนการขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากราคาตลาดของสินทรัพย์อื่น ๆ มีการเคลื่อนไหวด้วยทองคำ ขึ้นอยู่กับความเข้มของแต่ละเหตุการณ์

4) อุปสงค์และอุปทานของตลาด
เมื่อมีการแก้ไขปัจจัยอื่น ๆ ราคาทองคำเพิ่มขึ้น เมื่อคนต้องการซื้อทองมากกว่าจำนวนเงินในตลาด (ความต้องการสูงกว่าอุปทาน) ความต้องการ (demand) คือความต้องการทอง ส่วนใหญ่มาจาก 3 กลุ่มหลักคืออุตสาหกรรมการผลิตอัญมณีและการแพทย์และการลงทุน ในภาคการลงทุนมีความต้องการทองคำเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่เกิดวิกฤติสินเชื่อที่เกิดจากข้อ 3 รวมถึงรัฐบาล เงินซื้อเงินมากขึ้น เพื่อลดความเสี่ยงในการมุ่งเน้นที่พันธบัตรรัฐบาลของสหรัฐฯเช่นจีนอินเดียมีเศรษฐกิจที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว อุปทานคือความต้องการทอง ส่วนใหญ่มาจากสามกลุ่มหลักคือการทำเหมืองแร่ทองคำจากเหมืองทอง ปริมาณการขายปัจจุบันของธนาคารกลางและปริมาณทองคำเก่าที่แลกเปลี่ยนในระบบ

5) ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น
ประเทศไทยไม่สามารถผลิตทองได้ดังนั้นราคาทองในไทยจะเพิ่มขึ้นเมื่อค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น คุณต้องนำเข้าทองจากต่างประเทศ โดยทั่วไปตลาดทองคำ เนื่องจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐเป็นสกุลเงินอ้างอิงของธุรกรรมนี่คืออัตราแลกเปลี่ยนระหว่างดอลลาร์สหรัฐฯกับดอลลาร์สหรัฐฯ นี่เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลต่อราคาทองคำไทย

การจัดหาทอง (อุปทานทองคำ)

ตลาดนำเสนอกลุ่มทองคำสี่กลุ่มหลัก ได้แก่ เหมืองแร่การทำเหมืองแร่และการธนาคาร เศษโลหะเก่าที่หมุนเวียนอยู่ในระบบ Presale เพื่อหลีกเลี่ยงการขายจากผู้ผลิตและผู้ผลิต
1) การทำเหมืองแร่
ปัจจุบันเหมืองแร่ทองคำจากอุตสาหกรรมเหมืองแร่เป็นปัจจัยสำคัญที่สุดในการจัดหาทองคำ ทุกปีจะใช้เวลา 60% ของเงินในตลาด
แอฟริกาใต้เป็นผู้ผลิตทองคำรายใหญ่ที่สุดในโลก มีพื้นที่ผลิต 14% ของโลกรองลงมาคือสหรัฐอเมริกาออสเตรเลียละตินอเมริกาจีนรัสเซียเปรูเป็นต้น มีการผลิตทองคำประมาณ 2,500 ตันต่อปีในเหมืองทองคำทั่วโลก

2) เศษทองคำเก่า (ทองรีไซเคิล) ในระบบ
ทองทำจากผลิตภัณฑ์เก่าที่ได้รับการประมวลผลและสกัดอีกครั้งโดยทองคำแท่ง มันมีบทบาทสำคัญในกลไกของราคาทองคำ สกัดจากวัตถุดิบทุติยภูมิ ราคาทองคำมีเสถียรภาพมากขึ้น ทองนี้เป็นยังไง สภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจและส่วนเล็ก ๆ ของราคาทองคำ มันจะเพิ่มขึ้นในช่วงภาวะถดถอย หรือหลังจากที่ราคาทองคำพุ่งขึ้นแล้ว

3) การขายทองคำจากภาครัฐ (ขายในภาครัฐ)
องค์กรระหว่างประเทศในปัจจุบันของธนาคารกลางเช่นสถาบันการเงินระหว่างประเทศ กว่า 110 องค์กรถือทองคำในรูปของเงินสำรองประมาณร้อยละ 25 ของทองคำทั้งหมดในโลก ทุนสำรองเงินตราของธนาคารกลางแต่ละแห่งขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละประเทศ ผู้ถือหลักของทองคำคือธนาคารกลางของยุโรปและอเมริกาเหนือประเทศมีเงินซึ่งคิดเป็นประมาณ 10% ของเงินสำรองเฉลี่ยของประเทศ ธนาคารกลางสามารถขายทองคำให้กับตลาดได้ ข้อตกลงที่เกี่ยวข้องกับการขายทองคำให้เป็นไปตามข้อตกลงของธนาคารกลางอัตราดอกเบี้ย (GBGA) ซึ่งจะต้องมีธนาคารกลางที่จะขายมากกว่า 500 ตันต่อปี

4) ผู้ผลิตป้องกันความเสี่ยง
เหมืองทองคำสามารถขายล่วงหน้าได้ในตลาด คนขุดแร่ทองคำจะค้าทองคำจำนวนเดียวกันกับเจ้าของทองคำอื่น โดยปกติจะเป็นธนาคารกลาง ทองถูกยืมเพื่อขายในราคาตลาด เมื่อพูดถึงการจัดหาทองคำภายใต้สัญญา คนขุดแร่ทองเพื่อส่งมอบเงินให้กับคู่ค้าในราคาที่ตกลงกันไว้ พาร์ทเนอร์จะนำเงินกู้ยืมที่กู้คืนได้

ความต้องการทองคำ (อุปสงค์ทองคำ)

เรียกร้องความต้องการของลอร์ดแห่งทองคำจากสามกลุ่มหลักคือเครื่องประดับการแพทย์ภาคอุตสาหกรรม และภาคการลงทุน

1) ภาคเครื่องประดับ
ทองเป็นผู้บริโภครายใหญ่ในตลาด คิดเป็นประมาณร้อยละ 68 ของความต้องการของ Sokin ส่วนใหญ่อยู่ในตะวันออกกลางและเอเชีย โดยเฉพาะอินเดียและจีน กว่า 60% ของเครื่องประดับทองคำโลกมีมูลค่า เหตุผลที่มักจะซื้อทองคำที่ใช้เป็นเครื่องประดับส่วนใหญ่ แล้วของขวัญในกรณีพิเศษเช่นจีนใช้โอกาสของปีใหม่ทางจันทรคติ อินเดียใช้การเฉลิมฉลองของชาวฮินดูเทศกาล Diwali (สิ้นเดือนของการอดอาหารน) ในประเทศกำลังพัฒนา เครื่องประดับทองถือว่าเป็นการรักษาที่ดี

2) อุตสาหกรรมการผลิตและการแพทย์
การใช้ทองคำในกลุ่มนี้ซึ่งเป็นประมาณ 14% ของความต้องการทั้งหมด ส่วนแบ่งการตลาดทองคำในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์เพิ่มขึ้นตลอดระยะเวลาดังกล่าว
นอกจากนี้ยังมีการใช้ทองในด้านนาโนเทคโนโลยีเพื่อใช้เป็นตัวเร่งปฏิกิริยา พลังป้องกันมลพิษและกระบวนการทางเคมี มีการประมาณความต้องการ ทองในภาคนี้ ในอนาคตมากขึ้น

3) เว็บไซต์การลงทุน
ไม่เพียง แต่เป็นประกันความต้องการที่มีศักยภาพสำหรับการเพิ่มขึ้นของการลงทุนทองคำทองช่วยสร้างสภาพคล่องสำหรับเงินกว่าในอดีตที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 2003 ความต้องการทองคำจากแผนกการลงทุนจะขยาย มูลค่าการลงทุน 412% หรือมากกว่าปี 2551 มีมูลค่าถึง 32 พันล้านเหรียญสหรัฐ

ราคาทองคำประจำวันที่ 31 ตุลาคม 2561

ราคาทอง

 

ชนิดทอง ราคารับซื้อ กรัมละ ราคารับซื้อ บาทละ ราคาขาย บาทละ
ทองคำแท่ง 96.5% n/a 19,100.00 19,200.00
ทองรูปพรรณ 96.5% 1,237.00 18,752.92 19,700.00
ทองรูปพรรณ 90% 1,113.30 16,877.63 n/a
ทองรูปพรรณ 80% 989.60 15,002.34 n/a
ทองรูปพรรณ 50% 557.00 8,444.12 n/a
ทองรูปพรรณ 40% 433.00 6,564.28 n/a
ทองรูปพรรณ 99.99% 1,282.00 19,435.12 n/a
ทองคำ 99.99 และ 99.50% ราคาเปิด ราคาปิด
ฮ่องกง 11,440.00 n/a
ลอนดอน AM FIX n/a 1,220.00
ลอนดอน PM FIX n/a 1,225.40
นิวยอร์ค n/a 1,222.93

ที่มา : สมาคมค้าทองคำ